กลางดึก วันที่ 31 ต.ค.43 เป็นวันที่เพิ่มความสยดสยองของวันฮัลโลวีน เมื่อเครื่องบินโบอิ้ง 747 สายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ประสบอุบัติเหตุกระแทกรันเวย์ระเบิดพังยับเยินที่สนามบินเจียงไคเช็ก กรุงไทเป ไต้หวัน มีผู้เสียชีวิต 79 รายก่อนจะเพิ่มมาเป็น 82 ราย จากผู้โดยสารทั้งหมด 159 ราย ผมดูข่าวด่วนรอบดึกจากโทรทัศน์พร้อมติดตามรายละเอียดจากหนังสือพิมพ์ในวันต่อมา นักบินที่รอดตาย 3 คน กลายเป็นผู้ต้องหาในการนำเครื่องบินขึ้นผิดรันเวย์ โดยเข้าใจผิดไปใช้ลานบิน 05 อาร์ ซึ่งมีการปิดซ่อม สาเหตุคาดว่าปีกซ้ายเครื่องบินคงจะชนสิ่งกีดขวางหรือปั้นจั่น ขณะกำลังทะยานเชิดหัวขึ้นทำให้ลำตัวหมุนคว้างเอาปีกขวาตกลงกระแทกพื้นก่อน พร้อมกับลำตัวเครื่องบินอัดตามลงมาเกิดระเบิดไฟลุกท่วม จัดว่าเป็นเหตุการณ์ระทึกขวัญส่งท้ายไตรมาสของปีมิลเลนเนี่ยม มีสาวไทยรอดชีวิต 2 คน ในอาการที่ยังหวาดผวา บางทีเธออาจจะผวาประสาทหนักยิ่งขึ้นหากเธอได้ดูหนังที่ผมเคยชมต่อไปนี้ ปีนี้ฝนค่อนข้างตกหนัก มีน้ำท่วมต่างจังหวัดพื้นที่การเกษตรเสียหายมาก แม้ในกรุงเทพฯจะไม่ถึงกับน้ำท่วมหนัก ต้องเดินลุยเกือบครึ่งค่อนแข้ง แต่การไปไหนมาไหน ก็ไม่สะดวกนัก ขณะที่ฝนยังตกรินปรอย ๆ ผมเดินหลบเข้าไปในซอย ซึ่งยาวต่อไปถึงโรงหนังเก่าแก่แห่งหนึ่งกลางกรุงเทพฯ ย่านสะพานควาย ว่าตามจริงน่าจะเจ๊งไปนานแล้วในยุคโรงหนังแบบมัลติเพล็กซ์ครองเมือง อาศัยที่ฉายหนังอย่างว่าและราคาตั๋วเข้าดู (50 บาท) ถูกกว่าครึ่งของมินิเธียเตอร์ โปรแกรมฉาย 2 เรื่องควบ เรื่องแรกปลุกกำหนัดเป็นที่มันส์ในอารมณ์ของนักเรียนอาชีวะชายแถวนี้ ซึ่งกำลังเดินลงมาสวนทางกับผม ได้ยินว่าจะไปขึ้นครูต่อแถวราชเทวี ผมเดินเข้าไปเลือกที่นั่งแถวกลาง ๆ ของโรงหนัง เหลือบมองซ้ายทีขวาที เหลือผู้ชมที่รอดูเรื่องที่ 2 นับหัวได้แค่สิบกว่าคน กลางคืนอากาศเย็นยะเยือกพิลึก สภาพโรงหนังกลางกรุงแห่งนี้การออกแบบเป็นเหมือนกับโรงหนังตามต่างจังหวัดใหญ่ ๆ ทั่วไป ทางเข้าและทางออก 2 ด้าน ซ้ายและขวา อยู่ส่วนหน้าจอภาพยนตร์ โดยมีเวทีไม้กั้นก่อนถึงจอเงินที่ตั้งสูงขึ้น คุณไม่ต้องแปลกใจ หากพบว่ามีห้องน้ำชาย, หญิงอยู่หลบมุมติดกับผ้าม่านคลุมจอ ผมไม่ทันจะสังเกตอะไรไปมากกว่านี้นักเมื่อหนังขึ้นไตเติ้ลเรื่องใหม่
FINAL DESTINATION :เจ็ดต้องตายโกงความตาย ![]() หนังฝรั่งที่เพิ่งหลุดมาจากโรงใหญ่มัลติเพล็กซ์ เออยังดีอุตส่าห์ฉายหนังควบมีสาระกับเขาบ้าง ผมคิดอย่างนั้น ไม่ใช่ว่าจะรู้เรื่องเนื้อหาอะไรของหนังมาก่อนหรอกครับ เอาแค่ชื่อเรื่องก็พอรู้แล้ว เมื่อก่อนนี้ติดป้ายไว้ริมถนน 3 เรื่องควบ ไทย, ญี่ปุ่น, ฝรั่ง ฉายเวียนเอาให้สุด ๆ ไปเลย ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ชื่อเรื่องน่ะหรือตรงประเด็นเข้าถึงอารมณ์นัยว่าเด็กเล็กเด็กน้อยนักรงนักเรียนที่ใฝ่ทางเพศศึกษา อ่านตำราเรียนแล้วไม่เข้าใจเชิญได้ที่นี่ ความคิดผมจะเตลิดเปิดเปิงจินตนาการถึงหนังอย่างว่าเกือบกู่ไม่กลับ ถ้าไม่เริ่มได้รับความสนใจจากหนังเรื่องใหม่ต่อหน้าต่อตา เปิดฉากด้วยบรรยากาศมืดครึ้มฝนตกปรอย ๆ พร้อมสายฟ้าฟาดเป็นประกายแปลบปลาบ กระหึ่มเสียงครืนไปรอบทิศ ภาพโคลสอัพมาที่พัดลมตั้งโต๊ะใบพัดหมุนเสียงดับกรอบแกรบส่ายไปมา ซาวนด์แทร็คฟังดูโหยหวนดังแล้วแผ่วเบาเป็นระยะ พร้อมกับตัวหนังสือให้เครดิตชื่อเรื่องภาพยนตร์ดารานำ ตัวประกอบ ผู้กำกับ เป็นต้น แรงลมพัดเปิดหน้าหนังสือจับภาพเหล่าปีศาจซาตาน ซึ่งปรากฏในคัมภีร์ความเชื่อทางศาสนาชาวตะวันตก ก่อนตัดภาพกลับเข้ามาในบ้านหลังหนึ่ง คุณพ่อและคุณแม่ของเด็กหนุ่มวัยสิบเจ็ดที่ชื่อว่า อเล็กซ์ ALEX (ผู้ซึ่งเป็นตัวเอกเดินเรื่องของหนัง) กำลังตระเตรียมกระเป๋าเดินทางให้เขาเพื่อเดินทางไปท่องเที่ยวกรุงปารีส เมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส ขณะเข้านอนบนเตียงดูเหมือนว่าเขามีอาการกระสับกระส่ายนอนไม่หลับ นาฬิกาเรืองแสงบอกตัวเลข 1 นาฬิกา แล้วตัวเลขอีกสองหลักหลังกลายเป็นแปดสิบ รวมเลขเป็นหนึ่งแปดศูนย์ (180) เที่ยวบินมรณะจากสนามบินนานาชาติ จอห์น เอฟ เคเนดี้ ไปยังสนามบินชาร์ลส์ เดอโกลด์ อเล็กซ์กำลังเดินเข้าไปอาคารผู้โดยสาร มีชายคนหนึ่งตะโกนมายังเขาว่า ความตายไม่ใช่จุดจบ ทำให้ต่อมาอเล็กซ์เหลียวมองขึ้นไปยังตารางการบินเข้าออกแต่ละไฟล์ท ซึ่งตีแผงตัวหนังสือรวนไปมาไม่หยุดนิ่ง เขาเดินผ่านพลางหยุดเก็บสมุดภาพที่ตกหล่นพื้นคืนผู้หญิงวัยรุ่นคนหนึ่ง (ต่อมาภายหลังจะเป็นนางเอกของเรื่อง) ในภาพเผยให้เห็นรูปรถยนต์สีดำสภาพพังยับเยิน พาหนะคร่าชีวิตเลดี้ไดอาน่าพร้อมชู้รัก ในระหว่างรอ เพื่อนหนุ่มชวนอเล็กซ์เข้าห้องน้ำก่อนขึ้นเครื่อง เสียงเพลงของ จอห์น เดนเวอร์ แว่วมาจากลำโพงฝังบนฝ้า ทำให้อเล็กซ์รู้สึกถึงลางร้าย ซึ่งกำลังจะบังเกิดขึ้น อาจจะเป็นเหมือน จอห์น เดนเวอร์ นักร้องดังแนวโฟล์คซองส์ยุคเซเว่นตี้ส์ ซึ่งประสบอุบัติเหตุขับเครื่องบินส่วนตัวตกเสียชีวิต บรรยากาศตอนต้นเรื่องกำลังตื่นเต้นน่าติดตาม แต่แล้วผมรู้สึกสะดุ้งโหยงเหมือนมีตัวอะไรวิ่งชนปลายเท้าจนต้องชักขาขึ้นมานั่งท่าขัดสมาธิบนเก้าอี้ ไอ้หนูพุกตัวโตกำลังวิ่งกันให้ขวักเป็นโขยงใต้เก้าอี้ของแต่ละแถว ผมถึงกับเสียอารมณ์พอหย่อนตีนจากเบาะลงพื้นก็ไม่สนิทใจระแวงกลัวพวกมันจะวิ่งมางาบนิ้วเท้าทุกที ภาพตัดมาที่ประตูทางเข้าเลขที่ 46 หนุ่มวัยรุ่น 4 คน กำลังเดินผ่านหนึ่งในนั้นคือ อเล็กซ์ เหลือบนัยน์ตาจ้องมองออกไปนอกหน้าต่างของงวงช้างเห็นสะเก็ดไฟร่วงผ่านหน้าเครื่องบินลำซึ่งเขากำลังจะขึ้นไป เสียงเด็กเล็กในเครื่องร้องงอแงแหกปากจ๊ากขึ้นมาท่ามกลางผู้โดยสารนั่งรอประจำตำแหน่งเต็มอยู่แล้ว อีกด้านคนป่วยในสภาพจะตายมิตายแหล่ก็ขึ้นมาโดยสารเที่ยวนี้ด้วย ยิ่งทำให้อเล็กซ์รู้สึกเครียดและวิตกกังวลจนแสดงออกทางสีหน้าอย่างเปิดเผย ขณะเดียวกันเพื่อนหญิงบนเครื่องขอเปลี่ยนที่นั่งกับเขา เมื่อได้นั่งประจำที่ พอเอามือหมุนเปิดแป้นวางแก้วน้ำที่ล็อคเบาะหลังดันผ่าหลุดติดมือมาด้วย เครื่องบินกำลังเชิดหัวขึ้นหลังจากวิ่งได้ความเร็วถึงระดับมีแรงส่ง ผู้โดยสารเล่นเวฟแสดงความดีใจ ดนตรีประกอบหนังเร้าใจเร้าอารมณ์ไปกับภาพที่ปรากฏ อเล็กซ์ยังอยู่ในอาการไม่สบายใจกับลางบอกเหตุหลาย ๆ อย่างที่ปรากฏมารายทาง ทันใดลำตัวเครื่องบินก็สั่นสะเทือนโยกคลอนไปมา สายออกซิเจนก็เด้งดึ๋งตกห้อยระโยงระยางจากหลังคาเครื่องโดยอัตโนมัติ ผู้โดยสารแต่ละคนรีบไขว่คว้าหน้ากากดึงมาปิดจมูก ความดันอากาศในเครื่องตกวูบลง ไฟแสงสว่างในเครื่องกะพริบวูบมืดและสว่างสลับกัน ตามมาด้วยการระเบิดอย่างรุนแรงที่กราบซ้ายของลำตัวเครื่องบิน ความดันอากาศและแรงลมจากภายนอกแทนที่แทรกเข้ามาในตัวเครื่อง ผู้โดยสารต่างหวีดร้องตื่นตระหนกสุดขีด ยิ่งเห็นเก้าอี้พร้อมผู้โดยสารเคราะห์ร้ายหลุดตกออกไปตรงช่องว่างข้างลำตัวเครื่องที่ระเบิดออก ติดตามมาด้วยเปลวไฟภายใต้พลังขับเคลื่อนระเบิดกระจายออกอย่างรุนแรงเป็นครั้งสุดท้าย ทำให้อเล็กซ์ถึงกับตื่นขึ้นมาจากภวังค์ฝัน กลับเข้าสู่เหตุการณ์ปัจจุบัน อเล็กซ์กำลังนั่งเครื่องบินเตรียมขยับออกรันเวย์แล้วร่อนขึ้นอีกไม่กี่นาที พลันมือจับที่ล็อค แป้นวางแก้วน้ำ เบาะหลังพนักพิงเก้าอี้ผู้โดยสารตัวข้างหน้า มันถูกดึงหลุดออกเหมือนตัวเดียวกับในความฝัน ทำให้เขาถึงกับอารมณ์พลุ่งพล่านลุกขึ้นตะโกนบอกเครื่องบินกำลังจะระเบิด เครื่องบินกำลังจะตก! จนสจ๊วร์ดต้องไล่ลงจากเครื่องบินพลอยทำให้พรรคพวกเพื่อนผู้ชายอีก 3 คน หญิง 1 อาจารย์หญิงอีก 1 บวกนางเอกอีก 1 รวมกับอเล็กซ์ทั้งหมดเท่ากับ 7 คน จำต้องลงเครื่องตามกันมาสวดส่งปากเฮงซวยของอเล็กซ์ ในระหว่างที่กำลังทะเลาะกันหวิดวางมวยได้ครบยก 2 เครื่องบินที่ทะยานขึ้นลำนั้นก็เกิดระเบิดกลางอากาศแรงอัดส่งผลให้กระจกห้องพักผู้โดยสารแตกกระจาย ท่ามกลางความตะลึงพรึงเพริดของพรรคพวกและผู้ประสบเหตุในที่นั้น จัดว่าเป็น 30 นาทีแรกของหนังที่เดินเรื่องได้ระทึกขวัญสมจริงสมจัง ผมแว่บมองไปที่นั่งผู้ชมด้านหลังเห็นแสงไฟแช็ควาบขึ้นตามมาด้วยควันบุหรี่ หมอนั่นจ้องมาที่ผม มันคงคิดในใจว่า มองหาส้นตีนพ่อมึงรึไง กูจะสูบบุหรี่ซะอย่าง พร้อมกับยกตีนเปล่าวางพาดระหว่างพนักพิงเก้าอี้ชี้มาทางผม ผมรีบหลบตาหันกลับมาหน้าจอ เพราะไม่อยากมีเรื่อง ต่อจากนั้นพ่อแม่ของอเล็กซ์ถูกตามมาปลอบขวัญลูก รวมทั้งผู้ปกครองคนอื่น ๆ มีเจ้าหน้าที่เอฟบีไอ (FBI) มาสอบปากคำหาสาเหตุว่าทำไมเขาถึงรู้ล่วงหน้าว่าเครื่องบินกำลังจะเกิดอุบัติเหตุ หลังจากรถส่งนางเอกที่บ้านก็กลับมาที่เรื่องชวนสยองเหตุฆาตกรรมต่อเนื่องที่มีต่อผู้รอดชีวิตทั้ง 7 คน (ที่มาของชื่อเรื่องภาษาไทย) ถึงช่วงนี้ผมต้องหรี่ตาดูหนังไม่เต็มจอนัก มันเกิดปอดแหกขึ้นมา กับมุมกล้องภาพเคลื่อนไหวเดินไปเฉพาะจุด ดูทึม ๆ ไม่รู้ว่าจะมีไอ้ตัวอะไรโผล่ออกมาจ๊ะเอ๋ทางหน้าจอ ทำให้จำสาระอะไรไม่ได้มากนัก หลังจากงานศพเพื่อนผู้เสียชีวิตเครื่องบินตก ท้อด (TOD) ได้ร่วมกล่าวคำอาลัยแก่ผู้ที่จากไป หารู้ไม่ว่ามันได้เป็นคำไว้อาลัยให้กับตนเองด้วย ในห้องน้ำของบ้านขณะท้อดกำลังโกนเครา สายลมแผ่ว ๆ ค่อย ๆ ทำให้ผ้าม่านหน้าต่างเผยอ น้ำซึมจากก๊อกท่อน้ำล้างพื้นทำให้ท้อดสะดุดลื่นเสียหลัก คว้าลวดราวตากผ้ากระชากหลุดจากมุมยึดหมุนตวัดพันรัดคอตัวเองขณะที่ลำตัวลื่นกลิ้งลงไปอ่างอาบน้ำ หมดสิทธิ์ใช้เท้ายันตัวเองขึ้นยืน หายใจไม่ออกตายอย่างทุรนทุราย ถึงแม้อเล็กซ์จะสังหรณ์ใจเดินตามไปที่บ้านก็ไม่ทันซะแล้ว โดยพ่อแม่ท้อดเข้าใจผิดว่าเขาฆ่าตัวตาย อเล็กซ์กับเคลียร์แอบปีนเข้าไปทางเพดานห้องดับจิตเพื่อพิสูจน์หาสมมุติฐานการตาย สภาพรอยลวดพันรอบคอและฝ่ามือ ทำให้เข้าใจได้ไม่ยากนัก ไม่มีทางที่ท้อดจะฆ่าตัวตายเพราะเขาได้พยายามใช้มือดึงลวดที่พันหลอดลมออกจนถึงที่สุด แล้วสัปเหร่อร่างยักษ์ก็ปรากฏตัว พูดด้วยน้ำเสียงเนิบนาบแต่ดุดัน ความตายไม่มีคำว่าอุบัติเหตุ ไม่มีบังเอิญ ไม่มีคำว่าคราวเคราะห์ ไม่มีทางหนี เราทุกคน เป็นหนูที่ถูกแมวตะปบหลังเอาไว้ ที่เธอต้องตระหนักคือ ทุกอย่างที่เราทำไล่ตั้งแต่รูปสลักยันอนุสาวรีย์ ไฟแดงที่เราหยุดหรือแล่นผ่าน บุคคลที่เรามีเซ็กส์ด้วยหรือไม่เซ็กส์กับเขา เครื่องบินที่เรานั่งหรือเดินลงมา ทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งของรูปแบบการตายที่นำไปสู่หลุมศพ อเล็กซ์แย้งว่าหากเขาเดารูปแบบออกก็จะโกงความตายไปได้ การจากไปของท้อดแสดงว่าความตายได้จัดรูปแบบใหม่ให้แล้ว เธอต้องเดาให้ออกว่ามันจะกลับมาอย่างไรและเมื่อไหร่ เธอต้องใช้สัมผัสที่ 6 ช่วย หากคิดว่าจะหนีรอดลอยนวลไปได้ สัปเหร่อย้ำพร้อมส่งท้ายก่อนอเล็กซ์กับเคลียร์จะขอโทษที่บุกรุกเข้ามาและเดินกลับไปว่า แล้วเจอกัน ในช่วงที่หนังตัดภาพมาเป็นกลางวันมีแสงสว่างสะท้อนในโรงหนังมากขึ้น ผมบังเอิญมองลงไปที่ห้องน้ำข้างจอเวทีเหมือนมีอะไรดลใจ แสงไฟสะท้อนเงาตะคุ่มๆ จากผ้าม่านบังประตูห้องน้ำซึ่งเปิดค้างไว้ เงาเหมือนมีคน 2 คนกำลังต่อสู้ฉุดกระชาก ยื้อยุดกันไปมา เสียงคล้าย ๆ ผู้หญิงกรีดร้องขอความช่วยเหลือ แต่ฟังไม่ถนัดเพราะเสียงซาวนด์แทร็คจากลำโพงดังแทรกเข้ามา ภาพของ บิลลี่และคาร์เตอร์ตกใจสุดขีดที่เห็นคริสเพื่อนสาวถูกรถพุ่งชนเลือดกระเด็นเปรอะหน้าอาจารย์ลิวตั้น เคลียร์ซบหน้าเข้าหาอเล็กซ์ จากนั้นภาพในจอก็ดับมืดตึ่บทันทีพร้อมกับเสียงตื้ด ๆ ของลำโพง หนังขาดและไฟฟ้าก็ดับด้วย ข้างนอกฝนคงตกหนัก ยังดีที่มีไฟฉุกเฉิน สว่างพอให้เห็นผู้ชมค่อย ๆ เดินออกประตูฝั่งซ้ายมือ ส่วนประตูฝั่งขวามือคงใช้ไม่ได้เพราะมีไม้หน้าสามตีพาดเป็นกากบาท เอาไปเอามาเหลือผมไว้ในโรงหนังคนเดียว ว่าที่จริงก่อนหน้านั้นก็มีวัยรุ่นหนุ่มสาวคู่หนึ่งเดินออกไปก่อนไฟดับ ดูฝ่ายหญิงจะไม่สบอารมณ์กับหนังเรื่องนี้นัก ไม่เห็นหนุกเลยพี่ ฝ่ายหญิงบ่น เอาล่ะไม่ดูต่อก็ได้ เดี๋ยวพี่พาไปสนุกกันอย่างอื่นข้างนอกต่อนะจ๊ะ ฝ่ายชายว่าพลางโอบเอวน้อง ๆ กะหิ้วพาไปขึ้นสวรรค์วิมานต่อที่อื่น ขณะผมกำลังจะคิดเลิกดู ลุกขึ้นยืน เรื่องอะไรจะนั่งดูอยู่คนเดียวทั้งโรงวะ ยิ่งกลัว ๆ อยู่ด้วย พลันไฟฟ้าก็มา หนังเดินเครื่องฉายต่อ อเล็กซ์ดูข่าวโทรทัศน์สังเกตจากแปลนที่นั่งผู้โดยสารบนเครื่องบินและแนวทิศทางซึ่งระเบิดผ่ากลางลำตัว เมื่อเทียบกับที่นั่งเดิมหากพวกเขายังโดยสารไปกับเที่ยวบินมรณะเพื่อหาลำดับผู้ซึ่งจะถึงคราวเคราะห์ก่อนและหลัง จากนั้นหาวิธีโกงความตายที่จะมาถึงแต่ละคน คนแรกที่สังเวยชีวิตไปก่อนนั้นคือ ท้อด แล้วก็คริส และต่อไปก็น่าจะถึงคิวของอาจารย์ลิวตั้น ภาพตัดมาที่ลิวตั้นอยู่ในบ้านกำลังเดินวนไปมา ระบายอารมณ์เศร้าทางโทรศัพท์กับลอล่า สักครู่เมื่อเธอเหลียวมองลอดหน้าต่างออกไปก็เห็นใครบางคนเดินเข้ามาในบริเวณบ้านมาด้อม ๆ มอง ๆ ท่าทางไม่น่าไว้วางใจ (อาจจะรู้หรือไม่รู้ว่าเป็นอเล็กซ์ลูกศิษย์ก็ได้) จึงรีบโทรด่วนเรียกเจ้าหน้าที่เอฟบีไอ เมื่อเจ้าหน้าที่เอฟบีไอบึ่งมาถึงเจออเล็กซ์อ้างว่ากำลังตรวจสอบลมยางรถยนต์ส่วนตัวของลิวตั้น อเล็กซ์จึงถูกเอฟบีไอรวบตัวเข้าไปในรถ ซึ่งไม่พ้นสายตาของลิวตั้นที่แอบมองดูผ่านหน้าต่าง เมื่อเธอเดินกลับเข้าไปในห้อง สายลมแผ่ว ๆ ค่อย ๆ เผยอม่านหน้าต่างบานนั้นออก คล้ายกับยมทูตได้แทรกตัวเข้ามาจวนถึงเธอแล้ว ลิวตั้นรู้สึกเสียวสันหลังวาบ มองย้อนกลับมาที่หน้าต่างอีกทีก่อนเดินต่อไปข้างใน เธอเปิดตู้เก็บเสื้อผ้าก้มลงหยิบแผ่นเสียงข้างล่างขึ้นมา เป็นเพลงโปรดของคุณแม่ที่ฟังประจำ แผ่นเสียงของจอห์น เดนเวอร์ (JOHN DENVER GREATEST HIT) อเล็กซ์กำลังพยายามอธิบายรูปแบบความตายให้เจ้าหน้าที่เอฟบีไอในห้องสอบสวนเข้าใจ และเป็นหน้าที่ของเขาที่ต้องขัดขวางไม่ให้ความตายมาเยือนได้ เหมือนกับนิมิตที่ปรากฏคล้ายความฝันขณะอยู่บนเครื่องบิน และช่วยเพื่อนๆ รอดชีวิตกลับมาได้ 6 คน ลิวตั้นกลับเข้ามาในครัว จุดไฟเตาแก๊สต้มหม้อน้ำร้อนขณะรินน้ำร้อนใส่ถ้วยกาแฟกระเบื้องเซรามิก เธอจับหูถ้วยยกขึ้นมาเกิดตกใจ สะบัดน้ำร้อนในถ้วยทิ้ง แล้วมาเติมก้อนน้ำแข็งจากตู้เย็น พร้อมหยิบขวดวิสกี้ออกมาด้วย เปิดฝารินน้ำเย็นใส ๆ ลงไป เธอคงสังเกตไม่เห็นรอยปริร้าวของถ้วย เนื่องจากผลกระทบของอุณหภูมิที่เปลี่ยนจากร้อนเป็นเย็นอย่างฉับพลัน ทำให้น้ำรั่วหยดไหลเป็นทางตามถ้วย ที่เธอยกเดินไปตามพื้นและข้ามหลังจอมอนิเตอร์ของเครื่องพีซี หยดน้ำไหลผ่านตามช่องระบายความร้อนลงไปในอุปกรณ์ วงจรอิเล็กทรอนิกส์หลังจอภาพ จนเกิดการ สปาร์คประกายไฟแลบแล้วก็มีควันไฟไหม้ลอยขึ้นมาเป็นที่ผิดสังเกต ลิวตั้นก้มไปดูใกล้ ๆ จอก็เกิดระเบิด สะเก็ดจอแก้วพุ่งกระเด็นทะลุเข้าไปในลำคอ เลือดกระฉูดไหลลงมาเป็นทางตามพื้น ไม่เพียงแต่เท่านั้นเปลวไฟจากหน้าจอคอมพิวเตอร์จุดประกายลุกไล่จากโต๊ะลงสู่พื้นตามหยดน้ำ วิสกี้ แอลกอฮอล์ ย้อนกลับไปจุดระเบิดเตาแก๊สในครัว ทำให้ลิวตั้นผงะหน้าหงายล้มลง ขณะมือกุมลำคอหยุดเลือดตัวเอง อีกข้างพยายามเอื้อมขึ้นไปหยิบผ้าบนเคาน์เตอร์ครัว ผ้าที่คลุมรูดสันมีดตกลงมา ปลายแหลมพุ่งปักหน้าอกลิวตั้น อเล็กซ์วิ่งเข้าไปช่วยขณะที่ยังมีการระเบิดต่อเนื่องของเตาแก๊สในครัวอยู่ อเล็กซ์ดึงมีดที่ปักอกลิวตั้นออก เมื่อเห็นว่าเธอตายแน่แล้ว ก็รีบวิ่งพุ่งหลาวออกมาจากบ้านที่กำลังจะระเบิดให้พังพินาศไปทั้งแถบในอีกไม่กี่อึดใจ แสงไฟสปาร์คที่ผ้าม่านข้างจอหนัง วูบเดียวเปลวไฟก็ลุกลามจากล่างขึ้นบนอย่างรวดเร็ว ดูประกอบภาพในจอภาพยนตร์ได้สมจริงสมจัง ผมรีบผุดลุกขึ้นจากเบาะเก้าอี้วิ่งรี่ไปที่ประตูข้างจอ ใช้มือจับที่ลูกบิดประตูถูกล็อคเปิดไม่ออก แล้วผ้าม่านที่ติดไฟก็รวบตกหล่นลงมาข้าง ๆ จนผมกระโจนถอยหลัง ไฟลามไปที่จอผสมภาพเปลวไฟจากเครื่องฉายดุเดือดได้อารมณ์โคตรสมจริง ยิ่งกว่าหนังสามมิติ ควันไฟสุมมากขึ้นจนผมแสบตา บานประตูไม้ทางออกกำลังลุกไหม้ติดไฟ ผมวิ่งไปคว้าถังดับเพลิงถอดสลักกดปลายหนีบ จับปลายท่อผงสารเคมีสีขาวพ่นไปที่กองผ้าม่านและประตู เปลวไฟจึงดับมอดลง ผมไม่รอช้าได้จังหวะเหวี่ยงถังดับเพลิงกระแทกบานประตูถึงกับพังโครมเปิดออกมา ผมหลับตากลั้นหายใจวิ่งฝ่าควันออกไปจากประตูลงบันไดสู่ภายนอก ลืมตาสูดหายใจเอาอากาศบริสุทธิ์เข้าเต็มปอด แล้ววิ่งโกยอ้าวสุดชีวิตออกมาถนนใหญ่ปากซอย ยืนตั้งหลักพักเหนื่อยได้สักพัก ผมรีบเดินโซซัดโซเซ ข้ามถนนตรงรี่ไปที่ปั๊มน้ำมัน และเดินเข้าไปห้องน้ำล้างหน้าล้างตา ตาหายแสบแล้วก็จริง แต่รอบขอบตาขาวก็แทรกสีแดงขึ้นโดยรอบ เสียงไซเรนจากรถดับเพลิงวิ่งผ่านสวนทางกับรถแท็กซี่ที่วิ่งออกจากซอยที่ไฟกำลังไหม้โรงหนัง ยูเทิร์นเกาะกลางแวะเข้ามาจอดข้างห้องน้ำของปั๊มน้ำมันที่ผมกำลังยืนอยู่ หมอนั่นเปิดประตูห้องสุขาเข้าไป ขณะที่ผมวกกลับไปปัสสาวะที่โถฉี่ เสียงพึมพำรอดออกมาจากห้องน้ำ อีดาวมึงเฮี้ยนขนาดเผาโรงหนังเลยหรือนี่ ยกโทษให้กูที่ทำกับมึงเถอะว่ะ ยังดีที่กูเดินออกมาก่อนตอนหนังขาด ไม่งั้นแม่งเผากูเป็นตอตะโก กลายเป็นผีเฝ้ามึงข้างห้องน้ำนั่นแหง ๆ ประตูห้องน้ำเปิดออก ชายคนนั้นกลับออกมาเดินขึ้นไปขับรถแท็กซี่ เขียวเหลือง ทะเบียน ตย.418 บึ่งออกไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้ผมครุ่นคิดปะติดปะต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พอคลับคล้ายจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไรทำเอาถึงกับขนหัวลุก สลัดอาการตื่นเต้นหวาดผวาที่ตัวเองหวิดถูกไฟคลอกตายคาโรงหนังไปเป็นปลิดทิ้ง ฝนที่ตกปรอย ๆ หยุดไปนานแล้ว น้ำฝนที่เปียกค้างบนผิวถนนส่งอายความเย็นแผ่ขึ้นบนขณะที่ความเย็นของลมหนาววูบเข้ามาแทนที่ เย็นจนจับถึงขั้วหัวใจผมทีเดียว
อ้างอิง 1.นิตยสาร FILMAX issue 16 ตุลาคม 2551 2.นิตยสาร เอนเตอร์เทน #1008 30 ตค.- 5 พย. 51 |